พระปิดตานคร ๒ ดอกจันท์ กรุเมืองนครศรีธรรมราช เนื้อทองผสม
|
|||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||
ส่งข้อความ
|
|||||||||||||||||
ชื่อร้านค้า
|
(กอล์ฟ + มน) พระเครื่อง | ||||||||||||||||
โดย
|
mon37 | ||||||||||||||||
ประเภทพระเครื่อง
|
พระเกจิทั่วไป | ||||||||||||||||
ชื่อพระ
|
พระปิดตานคร ๒ ดอกจันท์ กรุเมืองนครศรีธรรมราช เนื้อทองผสม |
||||||||||||||||
รายละเอียด
|
พระปิดตาเมืองนคร ก่อนจะกล่าวถึงพระปิดตาเมืองนคร ขอกล่าวเมืองนครศรีธรรมราชสักหน่อยก่อน เมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองโบราณทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง และศาสนา หลักฐานโบราณคดีและเอกสารที่มีอยู่ยืนยันได้ว่า นครศรีธรรามราชมีกำเนิดมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๗ เป็นอย่างน้อย ได้พบร่องรอยโบราณสถานและโบราณวัตถุ เกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ อาทิ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ศิลปแบบอมราวดี และเศียรพระพุทธรูป ศิลปะแบบคุปตะของอินเดีย นั้นแสดงว่า เมืองนครศรีธรามราชมีมาแต่ก่อนกรุงสุโขทัย ซึ่งเป็นราชธานีแห่งแรกของไทย มีอายุเพียง 700 กว่าปี เมื่อนึกถึงประวัติศาสตร์เมืองนคร ผมก็นึกถึงองค์พ่อจตุคาม ซึ่งในอดีตได้สร้างความฮือฮาในวงการพระเมืองไทยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ชนิดที่เรียกว่าพระเก่าไม่ต้องขายกันเลยทีเดียว ผมคนเหนึ่งที่ไม่ได้เล่นองค์พ่อจตุคาม ในช่วงที่กระแสจตุคามดัง เมื่อปี พ.ศ.2548-พ.ศ.2550 พระเก่าแทบจะปิดกล่องใส่ไว้ในบ้านกันเลย แต่ผมมีเพื่อนสมัยเรียนชั้นประถม ซึ่งสนิทมากได้สร้างองค์พ่อจตุคาม คนในวงการรู้จัก คือ "อุ๊ กรุสยาม" ปัจจุบัน เป็นนายกอบต.บ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดอยุธยา และสร้างอุทยานรวมทั้งสร้างองค์หลวงปู่ทวดที่ใหญ่ที่สุดในถนนสายเอเชีย ทำให้เพื่อนร่วมรุ่นปราบปลื้ม "อุ๊ กรุงสยาม" ในช่วงที่องค์พ่อจตุคามดัง มีหลายกระแสถึงการกำเนิดองค์พ่อจตุคาม จึงได้ดั้นด้นไปอินโดนีเซียเพื่อหาข้อมูล ทริปนี้ได้ชวนผม และ"เชษฐ์ โฟโต้" ไปด้วย คณะเราได้จ้างไกด์ส่วนตัวเป็นคนไทย และคนอินโด นำไปแหล่งพุทธสถาน เริ่มจาก "บุโรพุทโธ" สถานที่มหันศจรรย์หนึ่งในเจ็ดของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้น สร้างปี พ.ศ.1293-1393 ก็ประมาณ 1200 กว่าปี ขอบอกว่ายิ่งใหญ่จริงๆ ใหญ่โตมาก (สร้างได้ไงคนสมัยนั้น ผมนั่งนึกดู ใช้คนงานกี่คนกันล่ะเนี่ย ไม่ใช่แค่สร้างอย่างเดียว ทั้งปั้นและแกะสลัก โอ้แม่เจ้า) อยู่บนภูเขา สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมของศาสนาพุทธลัทธิมหายาน แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของผู้สร้าง ผมเชื่อว่ากษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนจะต้องยิ่งใหญ่มาก มากกว่ากษัตริย์องค์อื่นที่เราเคยรู้จักบนโลกใบนี้ ผมไม่ได้พูดเกินเลย เชื่อไม่ว่าทริปนี้ผมถูกหลอกให้ไปเป็นเพื่อน "อุ๊ กรุงสยาม" จัดเที่ยวพุทธสถานใบราณ 3 วันเต็มๆ ไม่ต้องไปไหน ไปแต่โบราณสถาน วันแรกก็ไม่เป็นไร ตื่นเต้นกับความยิ่งใหญ่ของ "บุโรพุทโธ" หลังจากนั้นก็ไปโบราณสถานอีกหลายแห่ง ในละแวกแถวนั้น วันที่สอง "ปรัมบานัน" เทวสถานศาสนาฮินดู เห็นแล้วให้ความรูสึกความยิ่งใหญ่ของอณาจักร เมื่อเทียบกับเมืองพิมายบ้านเรา ต้องบอก "ปรัมบานัน" อลังการมาก วันที่สาม คณะเราได้เดินทางไปเที่ยวโบราณสถานอีกหลายแห่ง ที่ยังไม่ได้รับการบูรณะอีกมาก ท่านรู้มั้ยว่าหลังจากชาวอินโดนีเซียนับถือศาสนาอิสลาม ก่อนที่จะให้ความสำคัญกับวัตถุโบราณ ได้นำวัตถุโบราณมาบดทำถนน ท่านก็นึกดูว่า ปริมาณวัตถุโบราณมีมากขนาดไหน แน่นอนครับ สิ่งที่เราต้องไปเยือน คือ "พิพิธภัณฑ์" เราได้เห็นโบราณ วัตถุมากมาย ที่ยังคงเก็บรักษา วัตถุโบราณแต่ละชิ้นใหญ่โตมาก และจำนวนเยอะ "อุ๊ กรุงสยาม" ได้เห็นวัตถุโบราณหลายชิ้น เหมือนกับที่นครศรีธรรมราช จึงตั้งสันนิธานว่า เมืองนครศรีธรรมราชน่าจะเป็นหัวเมืองของกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลน ดูจากวัตถุโบราณ ที่มีจำนวนมหาศาล แต่นครศรีธรรมราชมีอยู่น้อยนิด ณ ตอนนั้น ผมยังไม่ได้ทำนิตยสารตรีมูรติ และไม่เคยสนใจองค์พ่อจตุคาม แล้วยังไม่เคยไปวัดมหาธาตุ นครศรีธรรมราช จึงไม่ได้ไปศึกษาย้อนเรื่องในอดีต อาณาจักรของราชวงศ์ไศเลน กับอาณาจักรเมืองนครศรีธรรมราช ใครสร้างก่อนกันแน่ จนกระทั่งผมอยากรู้ว่าใครเป็นผู้สร้างปิดตานคร จึงได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง พระมหาเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวนคร เป็นมหาธาตุเจดีย์องค์สำคัญของเมืองใต้ หนึ่งในสี่ของเจดีย์ประเทศไทย เริ่มจากภาคกลาง มีองค์ปฐมเจดีย์ ที่เมืองนครปฐม ภาคอีสาน พระธาตุพนม เมืองนครพนม ภาคเหนือ พระธาตุหริภุญชัย เมืองลำพูน แต่เดิมพระวัดมหาธาตุไม่มีพระสงฆ์ดูแล เริ่มมีก็สมัยรัชกาลที่ 6 แต่งตั้งพระครู 4 ตำแหน่ง เฉกเช่นเดียวกับองค์ปฐมเจดีย์ นครปฐม ก่อนที่จะแต่งตั้งพระสงฆ์ ในอดีตได้ผูกหุ่นพยนต์ทางไสยศาสตร์ทำเป็นรูปกา 4 ฝูง ให้หุ่นพยนต์ ทั้ง 4 เฝ้าดูแลองค์พระมหาธาตุเจดีย์ เมืองนครศรีธรรมราช เท่าที่พบพระเครื่อง ศิลปผสมผสานระหว่าง ทราวดี และ ศรีวิชัย มีพระเนื้อโลหะชนิดหนึ่งที่หาคำตอบไม่ได้ ว่าใครสร้าง สร้างสมัยใด แต่ทุกองค์มีตราดอกจันทน์ในพิมพ์ เท่าที่พบมีเนื้อ สำริด ทองแดง และทองผสม พระที่พบเป็นพระปิดตา แยกพิมพ์ได้เป็น 3 พิมพ์ คือ พิมพ์พระควัมบดี พิมพ์พระพังพระกาฬ พิมพ์พระพิฆเนศ แต่ละพิมพ์มีทั้งใหญ่ กลาง เล็ก และไม่มีองค์ไหนเหมือนกัน เนื่องจากปั้นทีละองค์ ถ้าเหมือนกันต้องมีองค์ใดองค์หนึ่งเก๊ หรือเก๊ทั้งหมด แต่สัญลักษณ์มีดอกจันทน์ทุกองค์ เชิญชวนสะสมฉบับที่ 115 ขอนำเสนอ พระปิดตาควัมบดี เนื้อทองแดง หรือนักเลงพระเรียก "ทองแดงเถื่อน" ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยาก เหมาะไว้บูชาอย่างยิ่ง องค์นี้ขอบอกเป็นพระดูง่าย ไม่ได้ผ่านการใช้มาเลย ทำให้พระสมบูรณ์แบบ ในการพิจารณากระแสโลหะ บ่งบอกถึงความเก่าได้อย่างชัดเจน ดังนั้นผู้มีความนิยมชมชอบพระปิดตาสายใต้ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง |
||||||||||||||||
ราคา
|
- | ||||||||||||||||
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
|
(095-8629621)Golf, Line ID: Golf656565 | ||||||||||||||||
ID LINE
|
Golf (ID LINE:Golf6), (มน ID:090-3569057) | ||||||||||||||||
จำนวนการเข้าชม
|
4,006 ครั้ง | ||||||||||||||||
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
|
ธนาคารกรุงเทพ / 125-4-59948-1
|
||||||||||||||||
|